ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สมชัย บวรกิตติ เจาะลึก สถานการณ์โรคเหตุใยหินในไทย

ขึ้นเว็บ

 

      เปิดบทสัมภาษณ์ ศ. เกียรติคุณ ดร. นพ. สมชัย บวรกิตติ สถานการณ์โรคเหตุใยหินในประเทศไทย ปี 2562 โรคเหตุใยหิน มีไม่กี่รายในประเทศไทย โดยมากยังไม่มีหลักฐานยืนยัน แพทย์ไทยเก่งไม่แพ้ฝรั่ง พบโรคเหตุใยหินไม่กี่ราย ถ้าเปรียบกับโรคอื่นๆ ที่น่ากลัวมากกว่านี้ยังมีอีกเยอะ
      จากกระแสการวิพากษ์เรื่องแร่ใยหินในประเทศไทย และการนำเสนอข้อมูลตัวเลขผู้ป่วยโรคเหตุใยหิน ที่ปรากฏอยู่ ณ ปัจจุบันนั้น ยังคงมีความไม่ชัดเจนหลายประการ และอาจสร้างความสับสนให้กับประชาชน ทั้งที่ผ่านมากว่า 70 ปี ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคเหตุใยหินจำนวนมากตามที่เคยมีการกล่าวอ้าง

ฝุ่นใยหินในอากาศสามารถพบได้ทั่วไป

      ศ.เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์ สมชัย บวรกิตติ ราชบัณฑิต แห่งราชบัณฑิตยสภาแห่งประเทศไทย อดีตหัวหน้าวิชาโรคระบบการหายใจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นักวิชาการโรคเหตุใยหินของประเทศไทย เปิดว่า ฝุ่นใยหินในอากาศ หรือที่เราเรียกว่า มลภาวะฝุ่นใยหินทางอากาศ จริงๆ จากผลงานของผมทั้ง 2 ครั้ง รวมถึงผลงานที่ฝรั่งทำไว้หลายครั้ง มันก็แสดงแล้วว่า ในบรรยากาศทั่วไปมีใยหิน มากน้อยแล้วแต่ว่าใกล้แหล่งที่มีใยหินหรือเปล่า เพราะฉะนั้น การที่มันมีอยู่ในอากาศก็เหมือนฝุ่นธรรมดา คุณหายใจฝุ่นซิลิก้า ฝุ่นแป้ง มันก็เป็นโรค แต่ละโรคได้ แต่ ใยหินกลับแปลก ที่ในประเทศไทย หายใจเข้าไปแต่ก็ยังไม่เป็น
      เคยมีรายงานพบคนเป็นโรคเหตุใยหิน 5 ราย และเสียชีวิตแล้ว 2 รายนั้น ที่รายงานไว้ 2 ราย มีแต่ประวัติและการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ แต่ไม่ได้มีการพบใยหิน อาศัยเพียงแต่ประวัติอย่างเดียว ก็บอกว่าเป็นโรคเหตุใยหินไม่ได้ ส่วน พบผู้ป่วยเนื้องอกเยื่อหุ้มปอด จากรายงานในวารสาร รายนั้นคุณหมอ ยอมรับแล้วว่าเป็นผู้ป่วยที่มีประวัติเท่านั้น ไม่ได้มีการตรวจโดยละเอียด ผมก็ไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าเป็นโรคเหตุใยหิน
      ศ.เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์ กล่าวต่อว่า รพ.แห่งหนึ่ง สรุปจำนวนโรคจากการทำงานพบ โรคปอดจากแร่ใยหิน 166 ราย ก็พอได้ฟังได้เห็นข่าวนี้แล้ว ก็ดีใจถ้าเขาสามารถยืนยันโดยมีรายงานออกมาครบถ้วน เพราะผมไม่เห็น รายงานเพียงแต่กล่าวอ้างเฉยๆ ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ ส่วนการรายงานพบชาวอังกฤษ 1 ราย ป่วยเป็นโรคเหตุใยหิน เสียชีวิตที่เชียงราย รายนั้นผมก็เขียนโต้ในวารสารวิชาการแล้วว่า คนนั้นเป็นโรคเหตุใยหินจริงๆ แต่เขาเป็นตั้งแต่อยู่เมืองนอก ไม่ได้มาเป็นในเมืองไทย ในประวัติที่คุณหมอให้ไว้ก็ชัดเจนว่าคนนี้เพิ่งมาอยู่ไทยได้ 3-4 ปี ซึ่งโรคนั้นต้อง 20 ปี ถึงจะเป็นได้ เพราะฉะนั้นเขารับมาตั้งแต่ประเทศอังกฤษ ไม่เกี่ยวกับประเทศไทย ฐานข้อมูลของ Health Data Center ระบุพบผู้ป่วยโรคเหตุใยหิน 28 ราย เป็นมะเร็งเยื่อเลื่อม 26 ราย เยื่อหุ้มปอดอักเสบ 2 ราย อันนี้ถ้าเป็นจริง อุบัติการณ์ของโรคก็ยังน้อยมาก ผมไม่เคยเห็นรายงานที่ว่ามีโรคเหตุใยหินในช่วงนี้ 28 ราย ยังไม่เห็นรายงาน ถึงอย่างไรก็ดี ถ้ามี 28 รายในระยะนี้ผมก็ยังดีใจเพราะว่าโรคเหตุใยหินในเมืองไทยนี้มันมีน้อยเหลือเกิน ถ้าเปรียบกับโรคอื่นๆ ที่น่ากลัวมากกว่านี้ยังมีอีกเยอะ

ผลการวิจัยโรคเหตุใยหินในประเทศที่ห่างกันถึง 30 ปี ไม่พบคนตายจากโรคเหตุใยหิน

      สมัยอยู่ศิริราช 30 กว่าปี ให้พยาธิแพทย์ตรวจศพที่ตายในโรงพยาบาลโดยที่ศพไม่ได้เป็นโรคเหตุใยหิน 300 กว่าราย พบเทห์ใยหิน asbestos body พบเพียง 1 ใน 3 หรือ 30% แต่ทุกรายเป็นโรคอื่นๆ ไม่ได้เป็นโรคใยหิน ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้สรุปว่าใยหินมาจากไหน 30 ปี ต่อมา สองปีที่แล้วผมก็ไปชวนหมอที่โรงพยาบาลรามาให้ทำการตรวจอีก ตรวจเสร็จก็พบ 33% พบมากกว่า 30 ปีที่แล้ว แต่ทุกรายก็เป็นโรคอื่น ไม่ได้เป็นโรคเหตุใยหินเลยสักราย
      เพราะฉะนั้นผมก็เริ่มมาสรุปว่า ใยหินในอากาศมาจากภูเขาไฟระเบิดก็ได้ มาจาก อุบัติภัย เช่น พายุ น้ำท่วม แผ่นดินถล่ม สามารถมีฝุ่นใยหินขึ้นมา ในอากาศได้ บังเอิญผมไปพบรายงานของเมืองนอก คนที่เป็นโรคใยหิน ชาวเอเชียเป็นน้อยกว่าคนทางยุโรป อเมริกา แต่คนเอเชียไม่ค่อยเป็น มันมีภูมิต้านทาน หรือ มีภูมิไวรับไม่มีภูมิไวรับ เพราะฉะนั้นคนไทยก็เป็นคนเอเชีย ถึงจะได้หายใจเอาใยหินในอากาศก็ไม่เป็นโรคเหตุใยหิน เขาไม่ได้ทำในโรงงานนะ ทั้งสอง รายงาน ไม่มีใครทำงานในโรงงานเลย

หลักการวินิจฉัยโรคเหตุใยหิน

      ศ.เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์ กล่าวต่อว่า เมื่อคนไข้ไม่สบายมา ถ้าทำงานโรงงานที่ใช้ใยหิน ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเขาอาจจะเป็นโรคเหตุใยหิน เราก็ต้องตรวจวินิจฉัยไป ถ้าเผื่อว่ามีอาการโรคที่แสดงว่าตรงกับใยหิน ก็ต้องพิสูจน์ต่อไป ตรวจหาใยหิน ถ้าไม่พบใยหินก็ไม่สามารถวินิจฉัยว่าเป็นโรคเหตุใยหินได้
      การวินิจฉัยโรคเหตุใยหิน ต้องดำเนินการเหมือนการวินิจฉัยโรคทั่วๆ ไป ดูประวัติว่าสัมผัสกับโรครึเปล่า จะเป็นเชื้อโรค จะเป็นใยหิน หรือจะเป็นอะไรที่เราจะวินิจฉัย เมื่อได้ประวัติแล้ว อาการของเขาหรือการตรวจต่างๆ เช่น เอ็กซ์เรย์ต่างๆ มันเหมือนโรคใยหิน แต่พอไปตรวจชิ้นเนื้อมันไม่พบ เราก็บอกไม่ใช่โรคเหตุใยหิน
      การวินิจฉัยโรคเหตุใยหินที่ผ่านมาเขาจะอ้างจากประวัติคนงาน คือเขาจะอ้างอย่างเดียวเท่านั้นว่า ทำงานโรงงานใยหิน หน้าตาโรคคล้ายๆ โรคใยหินก็วินิจฉัยว่าเป็นโรคเหตุใยหิน แต่จริงๆ เขายังไม่ได้พบหลักฐานในรอยโรคของเขาว่าเป็นโรคเหตุใยหิน ไม่ใช่ว่าเขาวินิจฉัยไม่ละเอียดนะ เขาวินิจฉัยละเอียดแต่ลงความเห็นไม่ถูกต้อง เขาลงความเห็นจากประวัติเท่านั้นที่อาจจะสัมผัสใยหิน ทำงานโรงงานใยหินไม่จำเป็นต้องสัมผัสใยหิน แล้วก็เป็นโรคที่หน้าตาคล้ายโรคเหตุใยหิน แล้วเขาก็อ้างว่าเป็นโรคเหตุใยหิน ทั้งๆ ที่ชิ้นเนื้อก็ไม่ได้แสดง แต่ตอนนี้ผมต้องพูดนิดนึงว่า สมมติถ้าคนไข้ของเขามีชิ้นเนื้อแสดงคือ พบเทห์ใยหิน จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคเหตุใยหินก็ยังก้ำกึ่งอยู่ เพราะคนธรรมดาก็พบได้ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคเหตุใยหินถึงจะพบ

การพบโรคใยหินในประเทศไทยมีมากน้อยแค่ไหน

      การพบโรคใยหินในประเทศไทยก็มีแต่มีไม่กี่รายในประเทศไทย โดยมากยังไม่มีหลักฐานยืนยัน คือมีไม่กี่รายที่มีหลักฐานยืนยัน ส่วนใหญ่ไม่มี เพราะฉะนั้นการที่เราจะลงความเห็นมันต้องมีรายงานยืนยันชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่พูดกันด้วยปาก ถ้าพูดถึงโรคเหตุใยหิน สำคัญที่สุดก็คือรัฐบาลต้องควบคุมโรงงานให้ดี ผมพูดในฐานะที่ผมเป็นหมอ ทุกวันผมใช้ยาให้คนไข้ยาทุกตัวมีพิษทั้งนั้น ถ้าใช้ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ถ้าใช้ให้ถูกต้องมันก็ไม่เป็นพิษเป็นภัย

      “ไม่น่าวิตกถ้าจากผลงานของผม ตรวจพบเทห์ใยหินแต่ก็ไม่เห็นเป็นโรคใยหินเลย ก็ไม่น่าตกใจ และอีกอย่างไม่มีรายงานโรคเหตุใยหินจากโรงงานมากมาย นอกจาก 2-3 รายที่มีคนเขารายงานไว้ เพราะฉะนั้นผมว่าอาจจะเป็นเพราะรัฐบาลควบคุมโรงงานให้ปลอดภัย คือ หมายความว่ามันไม่มีฝุ่นใยหินออกมากระทบกับคนงาน เนื่องจากรัฐบาลควบคุมดี อันที่สองอย่างที่กล่าวมาแล้วคือคนไทยเรามีภูมิต้านทานใยหินมากกว่าคนทางยุโรปหรือว่าอเมริกา เพราะฉะนั้นในเมืองไทยไม่น่ากลัวโรคเหตุใยหิน” ศ.เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์ กล่าว

      บทสรุปโรคเหตุใยหินในประเทศไทย ถ้าโดยรายงานสองครั้งของผมและของต่างประเทศ เพราะว่าเรามีฝุ่นใยหินอยู่ในอากาศอยู่แล้ว และคนก็หายใจเข้าไป ผมก็ยืนยันชัดเจนแล้วว่า 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ มีใยหินในปอดชัดเจนเลย แต่เขาก็ไม่เป็นโรคเหตุใยหิน แล้วคนไปทำงานโรงงานใยหินก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เพราะฉะนั้นผมว่าจะไปกลัวอะไร ใยหินที่ใช้ปัจจุบันก็เป็นใยหินประเภทที่มีพิษน้อยมาก ไครโซไทล์มีพิษน้อยมาก โรงงานที่ใช้ใยหินในประเทศไทย คือ ใช้ไครโซไทล์นะเวลานี้ และอีกอย่าง แพทย์ไทยก็เก่งสามารถวินิจฉัยโรคต่างๆได้ ไม่แพ้ฝรั่ง ก็ยังพบโรคเหตุใยหินไม่กี่ราย เพราะฉะนั้นเราจะไปกลัวอะไร ก็ไม่เห็นน่ากลัว ในอากาศก็มี ในโรงงานก็ควบคุมดี หายใจเข้าไปก็ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะคนไทยเก่งสู้ใยหินได้

 

 

 

ที่มา: https://www.banmuang.co.th/news/bangkok/164866?fbclid=IwAR3ixV79Qd6Ig1tSSIiRWDDR3-jaN-FsUAdPeUSkd_vV_aDU9zY5IP5lraA

Please follow and like us: